ส่องเทรนด์การตลาด 2023 “รุก-รับ-ปรับกลยุทธ์”

ส่องเทรนด์การตลาด 2023 “รุก-รับ-ปรับกลยุทธ์”

การจับตาและตามติดเทรนด์การตลาดที่ต้องรุกหนัก ทันสถานการณ์ และพร้อมปรับตัวทุกองศาความเปลี่ยนแปลง มีความสำคัญต่อการทำตลาดของแบรนด์อย่างมาก โดยเฉพาะโค้งสุดท้ายของปีที่อีกเพียงไม่กี่เดือนจะก้าวเข้าสู่ปี 2023 ซึ่งหากรู้ก่อน รุกก่อน รับมือได้ก่อน และปรับกลยุทธ์ได้สอดคล้อง ย่อมช่วงชิงความได้เปรียบและมีชัยเหนือคู่แข่งอย่างแน่นอน ep. นี้ไปตามติดส่องเทรนด์การตลาดในปี 2023 กันค่ะ

1. สร้างคอนเทนต์ที่เน้นให้เกิดการโต้ตอบของกลุ่มเป้าหมาย

การสร้างเนื้อหาที่เน้นกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายโต้ตอบได้ เช่น อินโฟกราฟิกแบบโต้ตอบ แบบทดสอบต่างๆ เกม การประเมินผล รวมถึงคลิปวิดีโอที่สามารถโต้ตอบกลับได้  โดย 81% ของนักการตลาดยอมรับว่ากลยุทธ์นี้สร้างอิมแพคได้สูงกว่า มีประสิทธิภาพดึงดูดความสนใจได้มากกว่าเนื้อหาแบบ passive (เน้นให้ลูกค้ารับสารเพียงอย่างเดียว) ซึ่งผลลัพธ์จะช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วม เพิ่มโอกาสการขายและ Conversion เพิ่มความภักดีต่อแบรนด์ ช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าอีกด้วย

2. การตลาดเชิงสนทนา

อย่าปล่อยให้ลูกค้ารอคอยคำตอบอย่างไม่มีจุดหมาย เพราะจะเป็นจุดตายสำคัญของการเสียโอกาสให้คู่แข่งปาดหน้าไปได้ การตลาดที่สามารถโต้ตอบกับลูกค้าได้ทันที แนวทางนี้เรียกว่า Conversation marketing (การตลาดแนวสนทนา) ซึ่งอาศัยการส่งข้อความที่มี keyword ตรงกับสิ่งที่ต้องการคำตอบและระบบ AI เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมของผู้คนที่เข้ามายังหน้าเว็บ การตลาด ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่ากำลังสนทนากับแบรนด์มากกว่าที่จะรู้สึกเพียงแค่การทิ้งข้อความไว้เพื่อรอการตอบกลับเท่านั้น

3. เนื้อหาที่ผู้ใช้งานสินค้าและบริการจริงสร้างขึ้น

เนื้อหาที่ผู้ใช้สินค้าและบริการจริงสร้างขึ้นจะเป็นเนื้อหาที่มีอิมแพคต่อกลุ่มเป้าหมายมาก เมื่อเทียบกับสิ่งที่ทางแบรนด์สร้างขึ้น  ซึ่งกลุ่มเป้าหมายจะให้ความเชื่อถือเนื้อหาของผู้ใช้งานสินค้าจริงมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการรีวิวสินค้า  Hashtag ของแบรนด์ แท็กรูปภาพที่ปรากฏอยู่ในโซเชียลมีเดียช่องทางต่างๆ คือสิ่งที่แบรนด์สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทั้งสิ้น

4. โซลูชั่นการกำหนดเป้าหมายใหม่

อีกไม่นาน Google จะถูกกำหนดให้เลิกใช้ cookie ของบุคคลที่ 3 จากนโยบายความเป็นส่วนตัวที่เข้มข้นขึ้น ซึ่งตัว cookie มีบทบาทสำคัญมากในการติดตามพฤติกรรมของผู้ใช้เว็บไซต์และเป็นข้อมูลที่นักการตลาดนำไปใช้งาน  ดังนั้นจึงต้องพยายามมองหาโซลูชั่นใหม่ในการกำหนดเป้าหมาย เพื่อพัฒนาเนื้อหาและโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคลต่อไป

5. การตลาดแบบคล่องตัว (Agile)

การตลาดที่เน้นการทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์  ออกแบบมาเพื่อให้สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้ง่ายขึ้น โดยการตลาดแบบนี้มีประโยชน์ในแง่ที่สามารถปรับความยืดหยุ่นให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงจากการวางแผนซ้ำๆ สามารถที่จะส่งมอบคุณค่าได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ให้ความสำคัญกับคุณค่าของลูกค้าและผลลัพธ์ทางธุรกิจมากกว่ากิจกรรมและผลลัพธ์ เน้นการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมากขึ้น มีความโปร่งใสและเน้นการทำงานร่วมกันผ่านเวิร์กโฟลว์

6. ประสบการณ์ของลูกค้าที่เหนียวแน่น

ลูกค้ายังคงคาดหวังประสบการณ์ที่ตรงกับสิ่งที่ต้องการ มีความจำเพาะและปรับรูปแบบให้เข้ากับพวกเขามากที่สุด นักการตลาดจึงต้องเข้าใจพฤติกรรมและประสบการณ์ต่างๆ ของลูกค้าให้ได้มากที่สุด โดยวิธีการหนึ่งที่อยากแนะนำก็คือการสร้างแผนที่การเดินทางของลูกค้า  ซึ่งจะแสดงภาพกระบวนการต่างๆ ของลูกค้าตั้งแต่การคิดและการตัดสินใจซื้อ โดยวิธีการนี้จะทำให้นักการตลาดเข้าใจลูกค้ามากขึ้นและทำการตลาดได้ตรงกับความต้องการของพวกเขาได้ในที่สุด

7. ความสัมพันธ์อันดีระหว่าง Influencer กับแบรนด์

ผู้คนมักจะลองใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆ ก็ตามที่ได้รับการแนะนำให้ลองใช้จากผู้ที่พวกเขาไว้วางใจ กลยุทธ์ Influencer จึงอาศัยจุดเด่นข้อนี้โดยอาศัยการทำงานร่วมระหว่างแบรนด์และตัวของ Influencer เองในการนำเสนอสินค้าของแบรนด์สู่ผู้ติดตามผ่านตัวของ Influencer ในช่องทางออนไลน์  เพื่อช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์ สร้างความไว้วางใจ ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง การสร้างลีด กำหนดเทรนด์ใหม่ และเชื่อมต่อกับตลาดให้กว้างขึ้น

8. การสตรีมมิ่ง การไลฟ์สดและเนื้อหาแบบวิดีโอ

คอนเทนต์แนววิดีโอสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้ชมได้มากกว่าคอนเทนต์แนวอื่น ปัจจุบันจึงนำวิดีโอมาใช้กระตุ้นการมีส่วนร่วม เพิ่มการรับรู้แบรนด์ ขณะเดียวกันการสตรีมมิ่ง การไลฟ์สดก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นเทรนด์การตลาดที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ซึ่งหากแบรนด์ร่วมมือกับ Influencer เพื่อทำสตรีมมิ่งจะช่วยให้แบรนด์เพิ่มการรับรู้และเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น

9. AI เพื่อการเทรนด์ที่ดีขึ้น

เทคโนโลยี AI กำลังจะมีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงในหลายอุตสาหกรรมภายในไม่กี่ปีข้างหน้า  นักการตลาดเองก็กำลังใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI เช่น โมเดลข้อมูล อัลกอริธึมเพื่อให้เข้าใจกลุ่มเป้าหมายได้ดีขึ้น  ข้อมูลนี้สามารถช่วยนักการตลาดเพิ่มประสิทธิภาพในการปรับแต่งและกำหนดกลุ่มเป้าหมาย เนื้อหา และปรับแต่งประสบการณ์ของลูกค้าให้เป็นส่วนตัว จึงเป็นอีกหนึ่งแนวทางทำการตลาดในปี 2023 ที่จะถึงนี้

10. เน้นความรับผิดชอบต่อสังคม

กระแสความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นอีกหนึ่งเทรนด์การตลาดที่กลุ่มเป้าหมายให้ความสำคัญไม่น้อย แบรนด์ใดที่ทำให้เห็นว่ามีความรับผิดชอบต่อสังคมก็จะได้รับโอกาสจากกลุ่มลูกค้ามากขึ้น นักการตลาดในปัจจุบันพยายามสร้างภาพลักษณ์ให้แบรนด์สินค้ามีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีความรับผิดชอบต่อสังคมผ่านแคมเปญต่าง ๆ และต้องยอมรับว่าแคมเปญหลายอย่างก็มีกระแสตอบรับในเชิงบวกไม่น้อยทีเดียว

11. การเป็นตัวแทนและการรวมกัน

ปัจจุบันการสร้างแคมเปญที่สื่อถึงความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการรวมกัน จะมีให้เห็นมากขึ้น โดยกลยุทธ์นี้จะเน้นไม่ให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกว่าตัวเองแปลกแยก ซึ่งมีงานวิจัยระบุว่าผู้บริโภคคาดหวังว่าแบรนด์จะส่งเสริมในเรื่องของความหลากหลายและความเท่าเทียม ซึ่งหากธุรกิจของคุณทำได้ก็จะกลายเป็นแรงผลักดันเชิงบวก โดยจะสร้างความไว้วางใจให้กับกลุ่มเป้าหมายได้ในที่สุด

12. มุ่งเน้นความเป็นส่วนตัวของลูกค้า

นโยบายความเป็นส่วนตัวได้รับการพูดถึงมากในปัจจุบัน หลายบริษัทกำลังพัฒนาเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกปลอดภัยเมื่อต้องให้ข้อมูลส่วนตัวของพวกเขา แม้สิ่งนี้จะไม่ใช่เทคนิคทางการตลาด แต่ความปลอดภัยของข้อมูลที่มากขึ้นจะช่วยให้ลูกค้าอุ่นใจที่จะให้ข้อมูลส่วนตัว คุณจึงจำเป็นต้องพิจารณาอัพเกรดซอฟต์แวร์ความเป็นส่วนตัวของคุณในปี 2023 เพื่อรองรับนโยบายดังกล่าว

ARM ACADEMY

Infinite growth and opportunities

สถาบันแห่งการเติบโตและต่อยอดธุรกิจ…ที่ไม่สิ้นสุด

☎ 02-071-9040

☎ 02-071-9041

💻 https://armacademy.co

IG: https://instagram.com/armacademy.co?igshid=1u25hwab0t52l

Line: https://lin.ee/1JO7vX4

#MorningShake #ARMacademy #EvolutionaryLeader #MarketingTrends #Marketing

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *