จากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพในการจัดประชุม APEC ภายใต้หัวข้อ “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล (Open Connect Balance)” นั้น วันนี้เรามาดูกันสักหน่อยว่า APEC นั้นจะสามารถกระตุ้นธุรกิจได้อย่างไร โดยสิ่งที่น่าจับตามอง คือการผลักดันการขับเคลื่อนเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก FTAAP ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการขจัดอุปสรรคทางการค้าระหว่างประเทศ และหนุนการเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทานในหมู่สมาชิก อีกทั้ง คาดว่าการประชุมในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้ดีขึ้นในหลายมิติซึ่งจะมีส่วนช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของไทยในระยะยาวได้
สำหรับการประชุม APEC ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้นำจะได้พบปะเยี่ยมเยือนกันภายหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ประกอบกับสมาชิก APEC ต่างอยู่ในช่วงปรับเศรษฐกิจเพื่อรองรับความท้าทายใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งการประชุมครั้งนี้มีประเด็นที่สำคัญ ได้แก่
1. การเปิดโอกาสด้านการการค้าเสรีและการลงทุนผ่านเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก (Free Trade Area of Asia-Pacific: FTAAP) ซึ่งไทยจะนำเสนอแผนงานการขับเคลื่อน FTAAP โดยมีเป้าหมายให้สามารถจัดตั้งขึ้นได้ภายในปี 2583 โดยจะผลักดันให้ผู้นำ APEC ออกแถลงการณ์ร่วมเพื่อรับรองแผนงานดังกล่าว
2. การจัดตั้งกลไก APEC Safe Passage เพื่อส่งเสริมการเดินทางที่สะดวกและปลอดภัยระหว่างกลุ่มสมาชิก ซึ่งจะช่วยผลักดันการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยว
3. การส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ยั่งยืน โดยสนับสนุนภาคธุรกิจและยกระดับวิสาหกิจ MSME เพื่อดำเนินกิจการอย่างสมดุลและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการขับเคลื่อนการเงินที่ยั่งยืนและเศรษฐกิจดิจิทัล โดยไทยได้เสนอโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy: BCG) เป็นแนวคิดหลักในการประชุมครั้งนี้
ในบรรดาความริเริ่มของไทยดังกล่าว การขับเคลื่อน FTAAP ถือเป็นประเด็นหลักที่ได้รับความสนใจอย่างมาก ซึ่งหากไทยสามารถผลักดันประเด็นนี้ให้มีความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรมได้ จะส่งผลให้เกิดเขตการค้าเสรีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกได้สำเร็จ ความคืบหน้าดังกล่าวจะช่วยเพิ่มอำนาจต่อรองกับประเทศนอกกลุ่ม APEC ทั้งยังจะช่วยกดดันให้การเจรจาเปิดเสรีทางการค้าในกรอบของ WTO ที่ชะงักงันให้เดินหน้าต่อไป
เศรษฐกิจไทยพึ่งพาการค้าระหว่างประเทศค่อนข้างสูง โดยในปี 2564 มูลค่าการค้าระหว่างประเทศ (ทั้งสินค้าและบริการ) มากถึง 116.7% ของ GDP สะท้อนถึงความสำคัญของการเปิดประเทศเพื่อส่งเสริมภาคต่างประเทศให้เป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะด้านการส่งออกและการนำเข้าสินค้าที่มีมูลค่าสูงถึง 53.4% และ 45.4% ของ GDP ไทยพึ่งพาด้านการค้ากับกลุ่ม APEC ทั้งการส่งออกสินค้าที่มากถึง 72.1% ของการส่งออกสินค้าทั้งหมด ขณะที่การนำเข้าสินค้าจากกลุ่ม APEC คิดเป็น 71.9% ของการนำเข้าจากทั่วโลก ตลาดการส่งออกและนำเข้าสินค้าที่สำคัญ คือ สหรัฐฯ จีน และญี่ปุ่น
นอกจากนี้ ไทยยังมีการเชื่อมโยงทางด้านการลงทุนกับกลุ่มสมาชิก APEC อย่างต่อเนื่อง ทั้งการลงทุนโดยตรงจากประเทศสมาชิก APEC ที่ไหลเข้าต่อเนื่อง และการลงทุนของไทยในประเทศสมาชิก APEC เพิ่มขึ้นเช่นกัน
สำหรับด้านการท่องเที่ยว ก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจากกลุ่มประเทศ APEC สูงถึง 28.1 ล้านคน คิดเป็น 70.4% ของจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาไทยทั้งหมดในปี 2562 โดยสัญชาติที่เดินทางมามากที่สุดคือ จีน มาเลเซีย เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น
ในกลุ่ม APEC มีหลายชาติในภูมิภาคเอเชียที่พึ่งพาการผลิตภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะจีน ไทย และเกาหลีใต้ ที่อัตราส่วนการผลิตภาคอุตสาหกรรม (Share of Manufacturing to GDP) คิดเป็นสัดส่วนสูงประมาณเกือบ 30% ของ GDP ล่าสุดในปี 2564 สัดส่วนการผลิตภาคอุตสาหกรรมต่อ GDP ของชาติข้างต้น ถือเป็น 3 ลำดับแรกของ APEC ที่ระดับ 27.4% 27.0% และ 25.4% ตามลำดับ ซึ่งสูงกว่าอัตราส่วนของ APEC (15.4%) และของโลก (17.0%) บ่งชี้ว่าอุตสาหกรรมเป็นกลไกขันเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของไทยและหลายชาติในเอเชียซึ่งได้ชื่อว่าเป็นโรงงานของโลก
กรณีของไทยนั้น พบว่า สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทย 4 อันดับแรกในปี 2564 เป็นผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ได้แก่ ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า (คิดเป็น 26.2% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด) ยานยนต์และชิ้นส่วน (14.2%) ผลิตภัณฑ์ยาง (5.8%) และพลาสติก (5.3%) ซึ่งสินค้าเหล่านี้ส่วนใหญ่ถูกส่งออกไปยัง APEC ทั้งผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ฯ ที่ผลิตป้อนตลาด APEC ถึง 77.3% ยานยนต์ฯ (57.5%) ผลิตภัณฑ์ยาง (72.5%) และพลาสติก (72.8%) แสดงถึงบทบาทของการค้าระหว่างกันในกลุ่มสมาชิก (Intra-trade) ที่มีความเชื่อมโยงกันอย่างสูง ซึ่งถือได้ว่าต่างฝ่ายต่างได้รับประโยชน์ร่วมกันจากเงื่อนไขทางการค้าและการลงทุนที่เอื้อแก่สมาชิกในกลุ่มภายใต้กรอบ APEC รวมถึงความพยายามในการลดอุปสรรคทางการค้าและปรับกฎเกณฑ์ที่ช่วยให้ตลาด APEC เปิดกว้างแก่ชาติสมาชิกให้สามารถเข้าถึงได้มากขึ้น ซึ่งท้ายที่สุดจะช่วยหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของบรรดาสมาชิกอย่างต่อเนื่อง
นักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดของไทยเมื่อเปรียบเทียบกับสมาชิกอื่นในกลุ่ม APEC สะท้อนจากที่ไทยเป็นประเทศพึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติมากที่สุดในกลุ่ม APEC ซึ่งคิดเป็น 11.8% ของ GDP ในปี 2562 (หรือคิดเป็นมูลค่า 1.9 ล้านล้านบาท) ส่วนใหญ่เป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวในกลุ่ม APEC คิดเป็น 66.2% ของรายได้ทั้งหมด โดยสัญชาติที่สำคัญ คือ จีน คิดเป็นร้อยละ 1 ใน 4 ของรายได้นักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด รองลงมาคือ มาเลเซีย (5.6%) รัสเซีย (5.4%) และญี่ปุ่น (4.9%)
หากพิจารณาถึงขีดความสามารถทางการแข่งขันของไทยในโลก จากการจัดอันดับของ International Institute for Management Development หรือ IMD ปี 2565 เผยว่าไทยมีความสามารถทางการแข่งขัน 63.7 คะแนน จาก 100 คะแนน และอยู่อันดับที่ 33 จาก 63 ประเทศทั่วโลก โดยไทยถูกจัดอันดับลดลง 5 อันดับ จากทั้ง 4 องค์ประกอบหลัก ได้แก่
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ทำให้อันดับความสามารถทางการแข่งขันลดลงมากที่สุด คือ ด้านสภาวะเศรษฐกิจเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้ากว่าหลายประเทศเนื่องจากไทยพึ่งพาการค้าระหว่างประเทศและการท่องเที่ยวสูง จึงทำให้อันดับของไทยอยู่ในอันดับต่ำเมื่อเทียบกับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด ซึ่งในปี 2562 ความสามารถทางการแข่งขันของไทยอยู่ในอันดับที่ 25 จาก 63 ประเทศ นอกจากนี้หากเปรียบเทียบในกลุ่มเอเชีย-แปซิฟิก จะเห็นว่าความสามารถทางการแข่งขันของไทยในปี 2565 อยู่อันดับที่ 9 จาก 14 ประเทศ ซึ่งคงอันดับเดิมจากปีก่อน และอยู่สูงกว่า ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ที่เป็นสมาชิกใน APEC ทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจไทยที่อยู่ในช่วงกำลังฟื้นตัวโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญจะสนับสนุนให้อันดับขีดความสามารถของไทยปรับดีขึ้นได้ในระยะข้างหน้า แม้ว่าไทยยังมีความเปราะบางในหลายด้านโดยเฉพาะด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ยังอยู่ในอันดับที่ต่ำ
…
ARM ACADEMY
Infinite growth and opportunities
สถาบันแห่งการเติบโตและต่อยอดธุรกิจ…ที่ไม่สิ้นสุด
☎ 02-071-9040
☎ 02-071-9041
💻 https://armacademy.co
IG: https://instagram.com/armacademy.co?igshid=1u25hwab0t52l
Line: https://lin.ee/1JO7vX4
#MorningShake #ARMacademy #EvolutionaryLeader #APEC #FTAAP #Economy