!! มัดรวม 11 กลยุทธ์กระตุ้นให้คนอยากซื้อออนไลน์

!! มัดรวม 11 กลยุทธ์กระตุ้นให้คนอยากซื้อออนไลน์

ทำอย่างไร? ที่จะชนะคู่แข่ง ชนะสงครามราคา เผย 11 กลยุทธ์กระตุ้นการซื้อออนไลน์อย่างได้ผล ช่วยเป็นตัวกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดความต้องการอยากซื้อเพิ่มมากขึ้น และยังสามารถเอาชนะการเปรียบเทียบราคาได้อีกด้วย ธุรกิจใดวางกลยุทธ์ได้ตามปัจจัยต่างๆเหล่านี้ ต้องปั๊วปังเสียกเรียกดังในใจลูกค้าอย่างแน่นอน

จากข้อมูล Insight Ecommerce ปี 2022 พบว่าคนไทยซื้อของออนไลน์รายสัปดาห์สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก รองลงมา คือ มาเลเซีย เกาหลีใต้ เม็กซิโก และจีน ตามลำดับ ซึ่งตอกย้ำถึงสิ่งที่เจ้าของธุรกิจควรทำทันที คือการมีหน้าร้านทางออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง แต่สิ่งสำคัญกว่านั้น คือการกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดความต้องการให้ได้แบบชัดเจน และสามารถทำได้ทันทีดังต่อไปนี้

1. การมีบริการส่งฟรี ทำให้ตัดสินใจซื้อมากที่สุดถึง 51.1%

ลูกค้าไม่ต้องการที่จะจ่ายเพิ่มเติมนอกเหนือจากราคาสินค้า ดังนั้น การส่งฟรี จึงเป็นการสร้างโอกาส ที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจมากที่สุดเป็นอันดับ 1 โดยเจ้าของธุรกิจอาจจะทำการบวกค่าส่งลงไปในสินค้าแล้ว หรือมีการคิดเผื่อในช่วงนี้แล้ว โดยอาจะใช้กลยุทธ์การซื้อยอดขั้นต่ำตามจำนวนที่กำหนดแล้วจะมีส่งฟรีให้ ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน

2. “คูปองส่วนลด” สร้างพลังปิดการขายในออนไลน์ได้ถึง 39.2%

คูปองส่วนลดเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยสร้างพลังปิดการขายที่โดดเด่น ผลสำรวจลูกค้าพอใจสั่งซื้อกับร้านที่มีส่วนลดทันที โดยการลดของคูปองต้องมีความสมเหตุสมผล ออกแบบโครงสร้างที่ไม่เยอะจนเกินไปจนทำให้ลูกค้าจับได้ว่าบวกเพิ่มไปก่อนและค่อยลดลงมา และคูปองนี้ยังช่วยให้เกิดความสนุก ทางจิตวิทยาคือการทำให้เหมือนได้ชนะ ได้เพิ่ม แม้คูปองจะลดราคาเพียงไม่กี่สิบบาทก็ตาม

3. สินค้าที่มีการรีวิวการใช้งานจริง เห็นสินค้าจริง ทำให้ตัดสินใจซื้อกว่า 33.5%

ธรรมชาติการซื้อต้องคู่กับความน่าเชื่อถือ ยิ่งช่องทางออนไลน์ สินค้าเห็นเพียงแค่ภาพ จับต้องไม่ได้ จึงมีความจำเป็นมาก ที่จะต้องทำให้เห็นถึงสินค้าจริง โดยอาจพูดถึงการใช้งาน ทำรีวิวรูปแบบวีดีโอแบบเจ้าของธุรกิจทำเอง หรือจ้างอินฟลูเอนเซอร์ให้รีวิวให้ รวมทั้ง มีคอมเมนต์จากลูกค้าเก่า ก็ช่วยเพิ่มการตัดสินใจซื้อได้ถึง 33.5% เรียกว่าได้ผลมากและควรทำในทุกสินค้าและทุกบริการ

4. ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อ หากมีข้อเสนอ ‘ไม่พอใจส่งคืนได้’ 32.1%

แคร์เท่าไร ก็ซื้อมากเท่านั้น ลูกค้ามักมองหาความเอาใจใส่จากแบรนด์ธุรกิจนั้นๆ ยิ่งช่องทางออนไลน์หากมีข้อเสนอไม่พอใจส่งคืนได้ จะช่วยปิดการขายได้ง่ายขึ้น เพราะลูกค้าสัมผัสได้ถึงความใส่ใจ และในเคสที่พบว่าสินค้ามีตำหนิจากการผลิต แบรนด์อาจไม่สามารถตรวจสอบได้อย่างทั่วถึง การให้สามารถส่งคืนได้นั้น เป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อตัวเองและลูกค้า จึงเป็นส่วนที่ควรสร้างข้อเสนอนี้ขึ้นมาและใช้เป็นจุดขายได้ด้วย

5. กดสั่งซื้อให้จ่ายง่ายเพียงไม่กี่คลิก 29.5%

ความเร็ว และ ง่าย คือหัวใจของเครื่องมือช่องทางออนไลน์ที่ควรมีในการทำการซื้อขาย เพราะจะช่วยลดความลังเลระหว่างการซื้อขายได้ลึกซึ้งถึงระดับอารมณ์ ทุกขั้นตอนควรเข้าใจง่าย เพียงไม่กี่คลิกก็ดูรายละเอียดพร้อมสั่งซื้อได้ทันที

การออกแบบซื้อขายออนไลน์ที่ดี มีขั้นตอนที่สำคัญที่สุดคือ “การชำระเงินของลูกค้า” ควรมีรองรับทุกช่องทาง แบบทั้งการโอนเงิน รับบัตรเครดิต สแกนจ่าย ให้ครบทุกช่องทาง

6. ลูกค้าจะสั่งซื้อ ถ้ามีการการันตีวันที่ของจะส่งถึงบ้านในวันพรุ่งนี้ 29%

ความรวดเร็วในการขนส่ง หนึ่งในปัจจัยที่ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อกับร้านนั้นๆ มากขึ้น โดยหากมีบริการการันตีของที่จะถึงอย่างรวดเร็วในวันถัดไป จะช่วยกระตุ้นการสั่งซื้อได้ ในส่วนนี้เจ้าของธุรกิจอาจจะออกแบบการสั่งซื้อทั้งแบบธรรมดา และด่วนมาก เพื่อให้ครอบคลุมกับความต้องการของลูกค้า

7. ร้านมีระบบสะสมแต้ม ลูกค้ามีโอกาสซื้อถึง 25.9%

หากร้านค้านั้นๆ มีโปรแกรมการสะสมแต้ม จะช่วยสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้ารู้สึกว่าเขาไม่ได้ซื้อแบบสูญเปล่า คุ้มค่าที่จะซื้อซ้ำๆ เพื่อแลกของฟรี หรือส่วนลดตามสิทธิ์ต่างๆ ได้ ช่วยสร้างความ Loyalty ในการกลับมาซื้อครั้งต่อไปอีกด้วย

8. มี engagement ด้วยยอดคอมเมนต์หรือไลค์สูง จะปิดการขายได้ถึง 22.1%

สินค้าหรือโพสต์การขายที่มียอดไลค์และคนมา engagement เยอะ จะช่วยสร้างบรรยากาศการขายที่น่าสนใจ เหมือนไปตลาดแล้วมีความมุงร้านนี้เยอะ ทำให้คนอยากเข้าไปดูและมั่นใจมากกว่า  โดยการจะเพิ่ม engagement นั้น ต้องทำคอนเทนต์หรือโพสต์ขายให้มีความน่าสนใจในคนหมู่มาก ไม่ใช่แค่เพียงลูกค้า แต่เป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลกับลูกค้าเป้าหมาย เป็นอีกกลยุทธ์ที่น่าสนใจ

9. ลูกค้าจะซื้อหากแบรนด์ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม 20.6%

ลูกค้ายุคนี้ ตระหนักถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม สิ่งที่จะสะท้อนเนื้อแท้ของแบรนด์นั้นคือความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม จะช่วยสร้างโอกาสในการปิดการขายได้เพิ่มขึ้น โดยอาจจะมีโครงการช่วยเหลือสังคม หรือมีการใช้แพ็กเกจจิ้งที่รักษ์โลก เป็นต้น

10. เก็บเงินปลายทางได้ 18%

พฤติกรรมการซื้อมีหลายแบบ รวมถึงการจ่ายเงิน ธุรกิจไหนสร้างทางเลือกการจ่ายเงินที่หลากหลายและครบถ้วนตามความต้องการ จะมีโอกาสที่ลูกค้าจะซื้อกับร้านนั้นมากกว่า “การเก็บเงินปลายทาง” คือหนึ่งในสิ่งที่ควรมี เพราะพฤติกรรมของลูกค้าบางกลุ่ม ยังคงต้องการ ได้รับของก่อนถึงจะค่อยจ่ายเงิน และการเก็บเงินปลายทางแสดงออกถึงความจริงใจ และความซื่อสัตย์ที่ลูกค้าจะสัมผัสได้อีกด้วย

11. มีปุ่มซื้อบนโซเชียลมีเดีย 12.7%

ถ้าเห็นแล้วอยากได้ มีโอกาสสูงที่ลูกค้าจะกดซื้อทันที เพื่อฉวยโอกาสนี้ เจ้าของธุรกิจจึงต้องสร้างปุ่มกดซื้อเพื่อสั่งได้ง่าย ไม่ต้องตามหาว่าจะกดซื้อตรงไหน และจะต้องชำระได้เลยทันที

และทั้งหมดนี้คือกลยุทธ์การกระตุ้นความอยากซื้อที่ทรงประสิทธิภาพที่เจ้าของธุรกิจไม่ควรพลาดในยุคดิจิทัล  เพราะด้วยสินค้าที่คุณภาพดีมีอยู่เต็มท้องตลาด ราคาที่แข่งขันอย่างรุนแรง แต่ธุรกิจที่ยังสำเร็จได้ คือการคงไว้ด้วย ความรวดเร็ว ง่าย และครอบคลุม

ARM ACADEMY

Infinite growth and opportunities

สถาบันแห่งการเติบโตและต่อยอดธุรกิจ…ที่ไม่สิ้นสุด

☎ 02-071-9040

☎ 02-071-9041

💻 https://armacademy.co

IG: https://instagram.com/armacademy.co?igshid=1u25hwab0t52l

Line: https://lin.ee/1JO7vX4

#MorningShake #ARMacademy #EvolutionaryLeader #ECommerce #ConsumerInsight

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *